Negative Income Tax คืออะไร ลดความเหลื่อล้ำได้จริงเหรอ?

จากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในงาน Vision for Thailand ว่า กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะลดภาษีเงินได้ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม รวมถึงการปฏิรูประบบภาษีไทยให้เข้าสู่ระบบ Negative Income Tax ที่ไม่ว่าจะรวยหรือจนก็ต้องเข้าระบบภาษีด้วยนั้น ดูเหมือน Negative Income Tax จะเป็นหนึ่งเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจอย่างมาก บ้างก็บอกว่าเป็นหนึ่งกลไกที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้ แล้วระบบภาษีที่ว่านี้มันคืออะไร เราไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน

ล่าสุด นายยุทธนา ศรีสวัสดิ์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม และ CEO iTAX ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว อธิบายถึง Negative Income Tax คืออะไร มีจุดเด่น และระบบการทำอย่างเป็นอย่างไรบ้าง เราไปไล่ดูกันแต่ละข้อกัน

Negative Income Tax คืออะไร?

ปกติเราจะคุ้นเคยกับระบบภาษีเงินได้ที่ใครมีรายได้มากก็เสียภาษีมาก ใครมีรายได้น้อยก็เสียภาษีน้อย คนที่ไม่มีรายได้ก็ไม่ต้องเสียภาษี

แต่ระบบ Negative Income Tax ถูกนำเสนอเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1962 โดยศาสตราจารย์ Milton Friedman นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน และเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ จะมีฟีเจอร์เพิ่มจากระบบภาษีเงินได้ทั่วไป คือ คนที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด นอกจากจะไม่ต้องเสียภาษีแล้ว จะยังได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลด้วยเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

แน่นอนว่าเพื่อให้คนที่รายได้น้อยได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง ระบบนี้จึงจูงใจให้ทุกคนที่แม้จะมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องจ่ายภาษีก็ต้องเข้าระบบภาษีและยื่นภาษีด้วย เพื่อเป็นหลักฐานรับการช่วยเหลือจากรัฐบาลต่อไป

Negative Income Tax มีจุดเด่นตรงไหน?

Negative Income Tax เป็นการให้เงินช่วยเหลือผู้มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ เน้นการให้ความช่วยเหลือผู้ที่สมควรได้รับได้ตรงกลุ่มและครอบคลุมที่สุด เพราะเป็นสวัสดิการแบบเจาะจง ช่วยประหยัดงบประมาณได้มากกว่าการดำเนินโครงการสวัสดิการแบบถ้วนหน้าที่บางครั้งใช้งบประมาณสูงแต่อาจได้ประสิทธิภาพไม่เต็มที่ เพราะงบประมาณถูกจัดสรรให้บุคคลที่ไม่ได้มีรายได้น้อยจริงๆ หรือไม่ได้รับความเดือดร้อนจริง

ในระยะยาว Negative Income Tax สามารถเพิ่มจำนวนคนให้เข้าสู่ระบบภาษีได้มากขึ้น เนื่องจากผู้มีรายได้น้อยก็มีแรงจูงใจให้เข้าระบบภาษีและยื่นภาษีเพื่อรับเงินช่วยเหลือ ดังนั้น ในอนาคตบุคคลเหล่านี้มีรายได้เพิ่มขึ้นจนถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีแล้ว ก็จะสามารถจัดเก็บภาษีได้ทันทีเพราะอยู่ในระบบภาษีแต่แรกอยู่แล้ว

ระบบ Negative Income Tax ทำงานอย่างไร?

กลไกของ Negative Income Tax ตามข้อเสนอของ Friedman มีองค์ประกอบ 2 ประการ ได้แก่

  1. เกณฑ์เงินได้ขั้นต่ำ (Income Threshold)
  2. อัตราการชดเชย (Rate of Subsidy)

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ลองสมมติตัวอย่างคร่าวๆ เช่น ถ้ารัฐบาลใช้เกณฑ์เงินได้ขั้นต่ำที่ต้องเสียภาษีคือ ปีละ 150,000 บาท และอัตราการชดเชย 50% ผลลัพธ์เป็นไปได้ในกรณีต่างๆ อาจเป็นได้ดังนี้

  • ก. นายเอก ไม่มีรายได้เลย – นายเอก จะได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลเป็นจำนวน 150,000 x 50% = 75,000 ต่อปี
  • ข. นายโท มีรายได้ 100,000 บาทต่อปี – นายโทก็จะได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาล โดยคิดฐานจากส่วนต่างของเกณฑ์เงินได้ขั้นต่ำกับรายได้ตัวเองก่อน คือ 50,000 (เกณฑ์ขั้นต่ำ 150,000 – รายได้จริง 100,000) จากนั้น นายโทจะได้เงินชดเชย 50,000 x 50% = 25,000 ต่อปี
  • ค. นายตรี มีรายได้ 150,000 บาทต่อปี ซึ่งเท่ากับเกณฑ์เงินได้ขั้นต่ำพอดี – นายตรีจะไม่ได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลเลย
  • ง. นายจัตวา มีรายได้สูงกว่า 150,000 บาทต่อปี – นายจัตวาจะต้องเสียภาษีให้แก่รัฐบาลตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่กำหนดไว้

ความท้าทายของระบบ Negative Income Tax?

หลักๆ น่าจะมี 2 ประเด็น ได้แก่

1. ต้นทุนการคัดกรองค่อนข้างสูงและสร้างภาระการยื่นภาษีเพิ่มให้ผู้มีรายได้น้อย เนื่องจากบุคคลผู้มีรายได้น้อยที่จะรับเงินช่วยเหลือได้ต้องเข้าระบบภาษีด้วย ดังนั้น ในกรณีที่รัฐไม่มีข้อมูลรายได้จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้มากเพียงพอ บุคคลเหล่านี้จึงจำเป็นต้องทำหน้าที่ยื่นภาษีเพื่อให้มีข้อมูลในระบบด้วยแม้ว่าจะไม่มีรายได้เลยก็ตาม ซึ่งอาจสร้างภาระให้ผู้มีรายได้น้อยรวมถึงผู้ไม่มีรายได้ต้องยื่นภาษีทุกปีด้วย ซึ่งต่างจากระบบปัจจุบันที่ผู้มีรายได้น้อยไม่เคยมีหน้าที่ต้องยื่นภาษีมาก่อน

2. ใช้งบประมาณเพิ่มเติม เพราะการให้เงินช่วยเหลือจำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณมาเพิ่มเติม ซึ่งประเด็นนี้อาจย้อนแย้งกับแนวทางที่กระทรวงการคลังกำลังวางแผนลดภาษีเงินได้ ซึ่งอาจทำให้งบประมาณยิ่งไม่เพียงพอ ดังนั้น รัฐบาลต้องวางแผนเรื่องแหล่งเงินช่วยเหลือที่เหมาะสมและเป็นไปได้จริงด้วย

ระบบ Negative Income Tax มันใช่อันเดียวกับแนวคิด Universal Basic Income หรือเปล่า?

การดำเนินนโยบาย Negative Income Tax มักถูกพูดถึงควบคู่กับนโยบายรายได้ขั้นต่ำถ้วนหน้า หรือ Universal Basic Income (UBI) ด้วยเนื่องจากมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำเหมือนกัน

แต่จุดแตกต่างสำคัญคือ UBI จะให้เงินเป็นรายได้พื้นฐานขั้นต่ำแก่บุคคลทุกคนโดยไม่สนใจว่าจะเป็นผู้มีรายได้มากหรือน้อย ในขณะที่ Negative Income Tax จะให้เงินช่วยเหลือเฉพาะคนมีรายได้น้อยเท่านั้นและให้ในอัตราที่แตกต่างกันแล้วแต่ว่ามีคนนั้นมีรายได้น้อยแค่ไหน

ประเทศไหนใช้ระบบ Negative Income Tax บ้าง?

บางประเทศได้มีการดำเนินนโยบาย Negative Income Tax ไปแล้ว โดยมีรายละเอียดและใช้ชื่อเรียกที่แตกต่างกัน เช่น

  • Earned Income Tax Credit (EITC) – สหรัฐอเมริกา อิสราเอล เกาหลีใต้ และสวีเดน
  • Family Tax Benefit (FTB) – ออสเตรเลีย
  • Independent Earner Tax Credit (IETC) – นิวซีแลนด์
  • Workfare Income Supplement (WIS) – สิงคโปร์
  • Working Income Tax Benefit (WITB) – แคนาดา
  • Working Tax Credit (WTC) – สหราชณาจักร

สังเกตดูดีๆ ประเทศพวกนี้รวยๆ ทั้งนั้น น่าสนใจว่าสภาวะบ้านเราตอนนี้พร้อมกับระบบ Negative Income Tax แล้วหรือเปล่า ซึ่งในมุมของนายยุทธนา มองว่า เห็นด้วยกับนโยบายนี้ เพราะเราอาจจะได้เห็นผู้เสียภาษีในระบบภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นรวดเดียวจาก 11 ล้านคนเป็น 66 ล้านคนได้เลย ประโยชน์ที่จะได้รับโดยตรงคือ หากมีสถานการณ์ที่ต้องให้เงินช่วยเหลือเหมือนตอนโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” ช่วงโควิด กระทรวงการคลังจะมีข้อมูลเพื่อให้ความช่วยเหลือได้ทันทีโดยไม่ต้องเหนื่อยให้ประชาชนมาเสียเวลาลงทะเบียนอีก ยิ่งตอนนี้มีทั้งเป๋าตังและโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต การให้เงินช่วยเหลือก็จะยิงเข้าตัวประชาชนรายนั้นได้ทันที ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ดึงเงินกลับได้ทันทีด้วย น่าสนใจว่าโครงการเหล่านี้จะบูรณาการกันได้ขนาดไหน

ตอนนี้รัฐบาลใหม่มีเวลาเหลืออีก 3 ปี มาลุ้นกันว่ารัฐบาลทักษิณจะผลักดันนโยบาย Negative Income Tax ให้เป็นจริงได้ทันหรือไม่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า